วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

กว่าจะมีวันนี้

            สวัสดีครับ ผมชื่อ กิตติภพ ศุภนาม ชื่อเล่น ฟิล์ม/Eugenio(เป็นอีกชื่อหนึ่งที่ครอบครัวเรียกกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย) ขณะที่เขียนบล็อกนี้ต้องของแนะนำตัวอีกครั้งในฐานะ นักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ประเทศไทยรุ่นที่ 53 ประจำเมืองเวโรนา ประเทศอิตลี (แลดูยิ่งใหญ่มาก 5555)
            ที่ตั้งชื่อโพสต์นี้ว่า " กว่าจมีวันนี้ " นั้น ตั้งไว้เพื่อแชร์ประสปการณ์ ความรู้สึก และต้องการให้กำลังใจกับผู้อ่าน เพราะกว่าจะได้มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS รุ่นที่ 53 ประเทศอิตาลี ไม่ใช่เรื่องง่ายสหรับเด็ก"ง่อยๆ"คนนี้เลย เพราะหนทางมันไม่ได้โปรย้วยกลีบกุหลาบ หรือ ปูไว้ด้วยพรมแดงผืนยาวแต่อย่างใด ในทางกลับกัน มันกลับโรยไว้ด้วยขวากหนามและอุปสรรคตลอดการเดินทางอันแสนยาวไกลนี้ เพื่อนอาจจะสงสัยว่า "มันจะอะไรกันนักกันหนากับอีกแค่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน" ถ้าเพื่อนๆกำลังคิดอย่างงี้อยู่ละก็ มาดูพร้อมๆกันนะครับว่าฟิล์มต้องฟันฝ่าอะไรมาบ้าง กว่าจะมายืนอยู่ตรงจุดนี้ อย่างทุกวันนี้ได้










            เริ่มกันตั้งแต่การ สอบ 

                 AFS มีระบบการสอบอยู่ 2 วิธี คือ

1. การสอบวัดความรู้ภาษาอังกาฤษ หรือ เรียกกันง่ายๆว่า "การสอบข้อเขียน" ซึ่ง ทุกคนนจะเข้าสอบพร้อมกันทั่วประเทศ และใช้ข้อสอบเดียวกันทั้งหมด ในเขตของฟิล์ม เค้าจะมีติในทุกๆเย็น โดยอาจารย์อาสาสมัครของ AFS ในเขตนั้นๆจะเป็นผู้ติว ซึ่งถ้าเพื่อนๆ น้องๆมีโอกาส ฟิล์มแนะนำให้ไปติวนะครับ เพราะจะเป็นแนวข้อสอบของปีที่ผ่านๆมา และมันจะเป็นประโยชน์มาก เพราะขนาดเด็กที่ความรู้ระดับกลางๆ ค่อนไปทางต่ำๆอย่างฟิล์ม ยังเข้าใจเลย....เพราะอย่างงี้เลยยอมลงทุนแบกร่างวิ่งไปติว ในโรงเรียนที่เขตพื้นที่ของ AFS ตั้งอยู่คนละที่กับโรงเรียนของฟิล์ม.........และสรุปในวันสอบจริงฟิล์มก็ทำข้อสอบไม่ทัน (ตายห่าละ!!! เว้นเป็นหน้าแล้วกูจะติดมั๊ยเนี่ย!!! ) แต่ก็ทำอย่างสุดความสามารถแล้วจริงๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น หากน้องๆทำข้อสอบไม่ทันจริงๆ  (ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ถามก็ทำกันไม่ค่อยทันกันเท่าไหร่) แต่ที่สำคัญคือ "ต้องฝนทุกข้อ" เพราะว่าขอสอบเป็นลักษณะการฝน ซึ่งทั่วไปถ้าเว้นว่าง เครื่องอาจจะไม่ตรวจ

2.การสอบสัมภาษณ์ สำหรับฟิล์มนะครับ ฟิล์มว่าอันนี้แหละยาก(ทั้งยากทั้งสนุก) โดยการสอบจะเริ่มก็ต่อเมื่อ ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการสอบข้อเขียน ซึ่งผลคือ ผ่าน (เหยด!!!!  ไม่คิดว่าจะผ่านเข้ามาได้จริงๆ) เอาหละ เมื่อถึงขั้นตอนนี้ เด็กนักเรียนทุกคนต้องเลือกประเทศสามอันดับที่ AFS ให้โควต้ามาในแต่เขต ซึ่งแต่ละปีจะแตกต่างกันออกไป ส่วนปีฟิล์มน๊านนนน มีที่ดีๆ ชื่อคุ้นหูๆ อยู่สามประเทศด้วยกัน อันได้แก่ อเมริกา , อิตาลี และ แบลเยี่ยม ที่ก็เป็นประเทศที่ไม่ค่อยคุ้นซักเท่าไหร่ ชอบประเทศอะไร หากผ่านคุณสมบัติที่เขากำหนด ก็เลือกกันได้ตามสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ฟิล์มเลือกอิตาลีเป็นอันดับแรก สองและสาม เป็น อเมริกา กับ เบลเยี่ยม >>>>เมื่อวันสอบมาถึง การสอบจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน โดย ใช้เวลาสอบทั้งวัน อันได้แก่
          2.1 การสอบสัมภาษณ์ เดี่ยว โดยจะมีคณะกรรมการ คอยถามโน่นนี่ และ คำถามก็จะเป็นคำถามเชิงจิตวิทยา และ ทดสอบทักษะของการแก้ปัญหาของเรา ชึ่งคำถาม "หลักๆ" ที่ส่วนใหญ่เจอกันคือ อยากไปประเทศไหน? ทำไมถึงอยากไปประเทศนี้? และ หากมีปัญหากับโฮสจะทำยังไง เป็นต้น
          2.2 การสัมภาษณ์ กลุ่ม ซึ่งอันนี้ไว้ไปเจอกันเอาเองนะครัช 

***สิ่งสำคัญในการสอบสัมภาษณ์****
         1)มารยาท ก่อนเข้าห้องสอบก็เคาะประตูซักนิด ขออนุญาตเข้าข้องสักหน่อย จะดีมากเลยครับ ที่สำคัญคือ ให้มืออ่อนๆเข้าไว้ "ไหว้"เข้าไปให้เยอะๆและก็อย่าลืมยิ้มสวยให้กรรมการด้วยนะครับ (ใจดีสู้เสือ จุดนี้ 5555 )
         2)บุคลิกภาพที่ดี อันนี้ทุกคนคงรู้กันแน่นอน 
         3)ความมั่นใจ น้ำเสียงที่หนักแน่น อ่อนหวาน อ่อนโยน แต่ไม่ อ่อนแอ 
         4)คำตอบที่มีเหตุผล และ เป็นคำตอบที่ผ่านการไตร่ตรองมากแล้วอย่างดี ( อย่าพยายามทำเสียง เอ่ออออ....อ่าาาา เทคนิคง่ายที่ฟิล์มใช้คือ จ้องตากรรมการคนที่ถามเรา แล้วยิ้มกว้างๆใส่ไปเลย ระหว่างนั้นก็นึกคำตอบไปด้วย เพราะโดยธรรมชาติของคนไทย ถ้าคนยยิ้มใจจะยิ้มตอบทันที ช่วงนี้แหละเค้าจะลืมไประยะนึง ว่าได้ถามอะไรเราไปแล้วบ้าง ให้ใช้จังหวะนี้ในการคิดคำตอบ....อีกอย่างใช้เทคนิคนี้เพื่อไม่ให้เค้ารู้ว่า ในใจเรากำลังคิดว่า (ถามกูไรกูเนี่ย!!!! ยากชิชายเบ๊ยยย!!!!)
         5) เตรียมของไปโชว์บ้างก็ดี อย่างฟิล์มชอบทำอาหาร ก็เอารูปที่เคยถ่ายๆไว้+ประกาศนีย์บัตรต่างๆที่เคยได้ ก็ควักเอาไปโชว์หมด เผื่อถ้ารรมาการถามว่า "คุณที่ความสามารถพิเศษอะไรบ้างครับ ?" จะได้ตอบเค้าถูก หรืถ้าเค้าไม่ถามก็โชว์ไปเลยตอนแนะนำตัวเองอ่ะ ( ปีฟิล์ม มีบางคนยกขิมไปเลยก็มี คิดในใจ:นี่กูชอบทำกับข้าว จาโทรบอกพ่อให้เอาเตาบิกนิคมาดีมั๊ยเนี่ย 5555  >.< ) 
แค่นี้น้องก็จะออกมาจากห้องสัมภาษณ์ได้อย่างสบายใจละครับ......

             แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ประเทศที่เพื่อนๆ หรือ น้องๆเลือก คนเลือกกันเยอะรึเปล่า? อย่างปีฟิล์มเนี่ย มีรุ่นพี่คนนึงถามว่า " น้องๆคนหนายเลืออิตาลีอันดับหนึ่งมั่งคร๊าบบบบ????​ :)))) " สิ่งที่เห็นคือ แม่งยกกันทั้งชั้นเลอะ T.T ไอ้เราเข้าสอบคนที่สอง มิหนำซ้ำ ไอ้คนแรกเสือกเป็นลูกครึ่งอิตาเลี่ยนอีก!!! >0< ระหว่างรอสอบเลยแอบถามมันว่า " ทำไมนายถึงเลือกอิตาลีอ่ะ จริงๆไปเองก็ได้หนิ จริงมั๊ย??? :))) " ( ซายโควเบาๆ 555 ) มันก็ตอบมาว่า "แม่บังคับให้เลือก แต่จริงๆอยากไปโดมินิกัน) เท่านั้นแหละเข้าทางเลย ประจวบกับมีรุ่นพี่ AFS มาได้ยิน ก็เลยบอกว่า " น้องบอกกรมการไปเลยว่าเราอยากไปประเทศไหน แต่ที่เลือกอิตาลีเพราะแม่บังคับ...บอกไปเล๊ยยย!!!! " จังหว่ะนี้ไอฟิล์มออกอาหารเห็นด้วยสุดฤทธิ์ ( บร๊ะ!!! เข้าทางกูเลยสิเมิงงง 5555 )>>>เอาจริงๆวันประกาศผล อ๊ายลูกครึ่งมันก็ได้ตัวจริงโดมินิกันของมันไปจริงๆ...ก็โชคดีกับปายย :)
           หลังการสอบเพื่อนๆคงความเห็นว่า "มึงติดละหละ ได้แน่ๆ" เพราะฟิล์มทำสัมภาษภ์ออกมาค่อนข้างดีในระดับหนึ่ง แต่ในใจยังคงคิดว่า "คงไม่ใช่เราหรอก" และผลก็เป็นไปตามที่คิดจริงๆ สรุปคือได้สำรองอันดับสามของเขต ซึ่งหากทีตัวจริงคนใดจากประเทศใดสละสิทธิ์สำหรับก็จะมีสิทธิ์เลือกตามลำดับ "แต่ใครจะสละสิทธิ์อิตาลีให้กรูหว่าาา หรือ ถ้ามีจริงๆ มีรึที่หนึ่งกะที่สองจะไม่เอาไปแดรกหนะฮาร์!!!! " บวกกับเพื่อนๆที่เป็นAFSก็บอกให้ "ทำให้เถอะ และเปิดใจเลือกประเทศใหม่ดู" (เพราะหลังจากประกาศผล จะมีการเรียกทั้งตัวจริงและสำรองทั้งหมดไปประชุมร่วมกันที่กรุงเทพ...พวกตัวจริงก็จ่ายตังค์กันตามระเบียบ ส่วยพวกที่เป็นสำรองจะได้รับโอกาสในการเลือกประเทศใหม่ 10 อันดับ คราวนี้มีมาให้เลือก 60 กว่าประเทศ โดยคะแนนจะถูกจัดเรียงใหม่ทั้งหมด และค่อยๆเรียกตั้งแต่ระดับเขตพื้นี่->ระดับภาค->ระดับประเทศ พูดง่ายๆคือถ้ายิ่งลึกมาก โอกาสก็จะน้อยลง โดยการเรียก ทางAFSจะเป็นผู้แจ้งเองว่า "ขณะนี้มีประเทศใดสละสิทธิ์ และนักเรียนจะไปประเทศที่มีการสละสิทธิ์หรือไม่".....ตอนนั้นคนรอบข้างพยายามให้ตัดใจจากประเทศอิตาลี เพราะโอกาสที่มีมันน้อยมาก แต่ฟิล์มยังคงเชื่อว่า"ประเทศนี้มันมีที่รอไว้สำหรับเราแล้ว ต้องไปให้ได้" และยังคงมันใจที่จะเลือกอิตาลีเป็นอันดับแรกอยู่ดี

         วันเวลาผ่านไป ขณะที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องเรียนก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น  " ครืดๆ !!! " (ใช้ระบบสั่ส จุดนี้ 5555) พอกดรับก็เสียงหวานๆ พูดขึ้นว่า "นี่กิตติภพใช่มั๊ย ครูโทรมากจากAFSนะลูก" (กรี๊ด!!!!!...โทรมากซักทีนะเมิงงง!!!!! และเวลาที่รอมาประมาณสามชาติครึ่งก็มาถึง)

ฟิล์ม :       ครับๆ อาจารย์ ผมเองครับ 
อาจารย์ :  ตอนนี้มีประเทศสละสิทธิ์สองประเทศนะลูก มี อิตาลี กับ ฮังการี 
ฟิล์ม :       ฮ๊ะอะไรลี่ๆนะครับอาจารย์....เฮ๊ยพวกเมิงเงียบก่อนดิ๊!!! (หันไปด่าเพื่อน ที่มันก็กำลังด่ากันอยู่)
อาจารย์ :  อิตาลี กับ ฮังกาลี จ่ะลูก 
(เชร๊ด!!!! ชัดเลยยยยย >.<)
ฟิล์ม :       อิตาลีครับอาจารย์ อิตาลีครับ....ไปอิตาลีครับอาจานนนนน!!!
แล้วอาจารย์ก็ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มๆว่า 
อาจารย์ :ใจเย็น ไปปรึกษาที่บ้านก่อนนะ
 (ปรึกษเ_ี้ยอารายยย กูรอมาขนาดนี้)
ฟิล์ม :      บ้านโอเคครับอาจารย์ไม่ต้องปรึกษา 
อาจารย์ : งั้นโอเค แต่ยังไงครูต้องดูก่อนนะว่าคุณสมบัติเธอได้ทุกข้อมั๊ย แต่เท่าที่ดูก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยังไงก็ยินดีล่วงหน้าไว้เลยนะจ๊ะ แล้วเจอกันจ่ะ
.......แล้วอาจารย์ก็วางหูไป

 "ติดแล้วโว๊ยยยย!!!!" 
ตะโกนทั่วห้องด้วยความดีใจ ทันใดนั้นเพื่อนก็ต่างเข้ามาแสดงความยินดี โลกในนี้ทั้งโลกมันกำลังเป็นสีชมพู....แต่ในขณะที่กำลังยินดีปรีย์ดาอยู่น๊านน ก็มีเสียงดทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง  " ครืดๆ !!! " (เป็นอาจารย์ท่านเดิม)  "นี่กิตติภพใช่มั๊ย ครูโทรมากจากAFSนะลูก"    ด้วยประโยคเดิม -.- 

อาจารย์ : ตอนนี้คุณสมบัติผ่านหมดแล้วนะลูก เหลืออย่างเดียวลูกต้องลดน้ำหนัก
ฟิล์ม :      ฮ๊ะ!!!! ลดน้ำหนัก!!!!!
อาจารย์ : จ่ะ เพราะประเทศทางยุโรบเค้าไม่อณุญาติให้นักเรียนที่มีค่าดัชนีย์มวลกายเกินเข้าเรียนในประเทศ เพราะฉะนั้น เริ่มลดได้แล้วนะลูก โชคดีจะ " ตุ๊ด! "
(น่านทิ้งกูแล้วไงครับอาจารย์) 

       เอาหล่ะครับเพื่อนๆ เพื่อนๆคงงงใช่มัญครับ ว่า "ทำไมต้องลด" , "จะลดทำไม" , "ฟิล์มเคยอ้วนเหรอออ???".......บอกให้ก็ได้ครับว่า ก่อนที่ฟิล์มจะเดินทางมาที่อิตาลีนั้น ฟิล์มเคยน้ำหนักถึง 107 กิโลกรัม นะครับ และ ตามค่าBMI(ดัชนีย์มวลกาย)แบบมาตรฐานนั้น บอกว่า ฟิล์มน้ำหนักเกินค่าปรกติของคนทั่วไปมา 30 กว่า กิโล นั่นหมายความว่าฟิล์มจะต้องลดให้ได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี ก่อนเดินทางไงอิตาลี......เอาหละมาดูกันนะครับว่าฟิล์มลดได้ยังไง....อะไรเป็นแรกบันดาลใจให้ลดได้ขนาดนี้ แล้วฟิล์มใช้ยาตัวไหนในการลด? หรือ ไปเข้าคอสที่สถาบันมาไหนรึเปล่า? ยังไงตอนนี้จะมาเล่าให้ฟังนะครับ.....ฝากไว้สำหรับน้อวๆที่ได้สำรอง อย่าเพิ่วงถอดใจนะ เพราะถ้าเป็นAFSอย่าว่าแต่สำรองอันดับสามเลย อันดับร้อยกว่าเกือบสองร้อยก็ยังได้ไป...... สู้ๆ สู้ๆ นะครับ ^.^ อ๊อ!!! ถ้ามีอะไรก็ถามกันเข้ามาได้นะครับ ยินดีตอนหมดเลย Facebook : Kittiphop Suppanam , E-mail : kittiphop02@gmail.com , IG: kittiphop_sup21 (แต่ให้ไปเพื่อน.....ยังไงถ้าfollowกันก็จะดรใจมากนะครับ)


        สำหรับโพสต์นี้ ซึ่งเป็นโพสต์แรก หากเขียนได้น่าเบื่อ หรือ ใช้ภาษาที่ผิด หรือ ไม่ดีไปบ้าง ต้องขออภัยนะครับ ยังไงก็ขอขอบคุณและขอฝากตัวกับชาว blogger ทุกท่านนะครับ สำหรับตอนนี้ สวัสดีครับ "Arrivederci"


      
      

1 ความคิดเห็น: